สหกรณ์ออมทรัพย์ รพช. และ อบจ. ศรีสะเกษ จำกัด เรื่อง การกำหนดวงเงินและหลักเกณฑ์การให้เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน พ.ศ. 2565
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 79 (7) และข้อ 107 (3) ของข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ รพช.และ อบจ. ศรีสะเกษ จำกัด และข้อ 5 ของระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์ รพช. และ อบจ. ศรีสะเกษ จำกัด ว่าด้วย การให้เงินกู้แก่สมาชิก พ.ศ. 2565 และที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 39 ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้สหกรณ์ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ KTB CO-OP ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน โดยการให้บริการสมาชิกด้านการฝาก - ถอน เงินฝากออมทรัพย์ และเงินกู้ฉุกเฉินแบบหมุนเวียน ดังนี้
1.คุณสมบัติของผู้กู้
1.1 เป็นสมาชิกสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไม่เป็นผู้ผิดเอนไขส่งเงินค่าหุ้นรายเดือน เงินงวดชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยทุกกรณี
1.2 ผู้กู้ยืมเงินต้องไม่ถูกสำนักงานบังคับคดี หรือหน่วยงานอื่นอายัดเงินปันผล/เงินเฉลี่ยคืน
2. วงเงินและเงื่อนไข
2.1 สมาชิกแต่ละรายขอกู้เงินได้ไม่เกิน 60,000 บาท สำหรับพนักงานจ้างตามภารกิจ หรือพนักงานราชการ ขอกู้เงินได้ไม่เกิน 25,000 บาท หรือไม่เกิน 3 เท่าของรายได้รายเดือน
2.2 ต้องมีเงินค่าหุ้นไม่ต่ำกว่า 25% ของวงเงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน
2.3 สมาชิกสามารถใช้บัตร ATM ของธนาคารกรุงไทยฯ ใบเดิมได้ทันที และต้องทำรายการที่เครื่อง ATM ของธนาคารกรุงไทยฯ เท่านั้น
2.4 กรณีที่ส่งคืนเงินกู้ยังไม่ครบจำนวน แต่มีความประสงค์จะกู้เพิ่ม สมาชิกสามารถกู้ได้ไม่เกินวงเงินที่ได้รับตามสิทธิ์ หรือหากชำระในแต่ละเดือนเท่าใด จะสามารถกู้ได้ตามจำนวนเงินต้นที่ชำระคืนให้กับสหกรณ์
2.5 สหกรณ์สามารถหักเงินรายได้รายเดือน เพื่อชำระหนี้เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน ของสมาชิกได้
2.6 สมาชิกต้องกรอกคำขอกู้ตามแบบที่สหกรณ์กำหนด เพียงครั้งเดียวต่อปี (เมื่อสัญญาครบกำหนด 1 ปี จึงกรอกคำขอกู้ใหม่) พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
3. การชำระหนี้ ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 12 งวด
4. วิธีการขอรับเงินกู้
สมาชิกเลือกวิธีเบิกเงินกู้ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (ATM) ของธนาคารกรุงไทยฯ สามารถเบิกเงินผ่าน ATM ได้ไม่เกินวงเงินที่ขอกู้ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ (โดยสมาชิกจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบริการถอนเงินกู้ ครั้งละ 8 บาทต่อครั้ง ในเขตจังหวัดศรีสะเกษ และนอกเขตจังหวัดศรีสะเกษ ครั้งละ 10 บาท)
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2565

นางสมัย พรมโสภา